สว่าน ถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับใช้เจาะวัสดุต่างๆ นิยมใช้ในงานไม้และงานเหล็กทั่วไป ในงานช่างก่อสร้าง งานซ่อมแซ่มบ้านทั่วไปรวมไปถึงงาน DIY ต่างๆ และยังเป็นเครื่องมือเฉพาะทางที่ต้องใช้ความชำนาญในการใช้งาน
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้อง มีความเข้าใจเพื่อการใช้งานสว่านอย่างปลอดภัย และรู้หลักวิธีการเจาะอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอาการบาดเจ็บจากเศษวัสดุที่แตกหักหรืออุบัติเหตุอื่นๆได้ และวิธีการใช้งานสว่านอย่างปลอดภัยมีดังต่อไปนี้
1. สวมเสื้อผ้าที่ปลอดภัยและอุปกรณ์ป้องกันดวงตา
หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่หลวมและมีขนาดใหญ่จนเกินไป หรือเครื่องประดับห้อย อาจจะทำให้เกิดการพันไปยังตัวสว่านในขณะที่เราเอนตัว ขณะใช้งานสว่านอยู่ และสวมแว่นตานิรภัยหรือแว่นตาที่ปิดด้านข้างของดวงตาเพื่อป้องกันไม่ให้เศษขยะกระเด็นเข้าดวงตา.


2. สวมอุปกรณ์ป้องกันหูเมื่อมีการเจาะเป็นประจำ
สว่านไฟฟ้าแบบใช้มือถือจะมีระดับเสียงประมาณ 90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อการได้ยินหากได้รับเป็นระยะเวลานาน สว่านกระแทก (สว่านเจาะกระแทก) เป็นสว่านใช้มือถือ ที่ดังที่สุดโดยมีระดับเสียงมากกว่า 100 เดซิเบล ดังนั้นเราจึงเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงทุกครั้งที่ใช้

3. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งขณะทำงาน
หากมีการใช้งานสว่านเจาะที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองจำนวนมากให้สวมอุปกรณ์ป้องกันการหายใจ และหน้ากากกันฝุ่นที่ใช้เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาวเท่านั้น ถ้าต้องมีการเจาะเป็นประจำหรือเป็นเวลานานหรือหากวัสดุที่คุณเจาะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองที่ใช้จะต้องเป็นชนิดที่ใช้สำหรับงานเจาะเฉพาะทางเท่านั้น ดังนั้นควรพิจารณางานและอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองอย่างเหมาะสม

4. เลือกใช้ดอกสว่านให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกใช้ดอกสว่านที่ไม่ถูกต้องแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้การบิดเบียวหรือวัสดุที่คุณเจาะเกิดการแตกหักได้ ดังนั้นเราต้องเลือกใช้ชนิดสว่านให้เหมาะสมกับงาน สำหรับดอกสว่านที่มีจำหน่าย โดยทั่วไป สามารถแยกประเภทได้ตามลักษณะ ใช้งานอย่างง่ายๆได้ดังนี้
1.ดอกสว่านเจาะไม้ ลักษณะปลายดอกหางปลา ดอกว่านจะมีขนาดไม่กว้างนัก โดยขนาดทั่วไปที่ใช้คือ ขนาด 5,6,8หรือ 10 มิลลิเมตร อาทิ ใช้เจาะรูเพื่อแขวนนูปภาพติดผนังบ้าน หรือเจาะรูเพื่อร้อยสายไฟภายในบ้าน หรือเจาะเพื่อยึดไม้เข้าด้วยกัน
2.ดอกสว่านเจาะเหล็ก ลักษณะของดอกสว่านเป็นร่องเกลียวตัด (flute) ปลายดอกแหลมเป็นแบบ ป้องกันการหนีศูนย์ ในขณะเริ่มเจาะ (Split Point) ใช้สำหรับจิกนำศูนย์ เจาะได้ตรง ดังนั้นดอกสว่านทำจะเหล็กกล้าไฮสปีด เราจึงสามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานหลากหลายที่อ่อนกว่าได้ เช่น ไม้หรือโลหะทั่วไป รวมถึงพลาสติกได้อีกด้วย
3.ดอกสว่านเจาะคอนกรีต ลักษณะของดอกสว่านจะเป็นเกลียวบิด ปลายดอกเป็นเหล็กกล้าคาร์ไบด์ ปลายดอกออกแบบ(รูปทรงเจดีย์ เหมาะสำหรับการเจาะปูน คอนกรีต ซีเมนต์บล็อก หรืออิฐมอญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นหรือผนัง
5. ยึดหัวจับสว่านให้แน่น
หัวจับดอกสว่านเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ดอกสว่านยึดกับตัวเครื่อง ดังนั้นจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวจับสว่านไม่มีการหลุดหลวม เพื่อให้การใช้งานระหว่างการเจาะไม่เกิดปัญหา และอุบัติเหตุ


6. เจาะรูนำร่อง ก่อนลงนำหนักเจาะ
ในกรณีที่เราต้องการ ให้ผลงานเจาะออกมาดีการ เจาะ “รูนำร่อง” แบบตื้นก่อนเปลี่ยนไปใช้ดอกเจาะขนาดใหญ่นั้น จะช่วยให้ป้องกันไม่ให้ดอกสว่านของคุณลื่นไถลและลดโอกาสที่ไม้จะแตกหรือเกิดความเสียหายอื่นๆ ได้ และที่สำคัญเราควรเจาะนำร่องวัสดุที่เปราะมาก เช่น เซรามิกและแก้ว โดยการสร้างสัญลักษณ์ ขนาดเล็กลงในกระดาษกาวและนำไปแปะไว้ตรงที่เราต้องการให้มีรูเพื่อช่วยป้องกันการลื่นไถลและบิ่น แทนที่จะเจาะรูนำร่องด้วยค้อนเพื่อสร้างรอยบุ๋มเล็กๆ

7. หลีกเลี่ยงไม่ให้ดอกสว่านร้อนเกินไป
หากเราต้องเจาะผ่านวัสดุแข็งหรือเจาะด้วยความเร็วสูงนั้น ดอกสว่านจะต้องรับแรงเสียดทาน อาจจะทำให้เกิดความร้อนสูงได้อย่างรวดเร็วจนถึงจุดที่ดอกสว่านร้อนเป็นสีแดงส่งผลให้เกิดการไหม้วัสดุที่เรากำลังขุดเจาะ ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยความเร็วสว่านต่ำและเพิ่มความเร็วเฉพาะในกรณีที่สว่านไม่เคลื่อนที่ หากเรากำลังเจาะผ่านวัสดุแข็งหรือเจาะหลายๆ รูในวัสดุ ให้ใช้ความเร็วที่ช้าและหยุดเป็นครั้งคราว เพื่อให้ดอกสว่านเย็นลงสักครู่ เมื่อเจาะแก้วเซรามิกหรือหินให้เติมน้ำให้คงที่เพื่อรักษาความเย็น
8.ห้ามบิดดอกสว่าน ออกด้วยเครื่องหากมีการติดขัด
หากดอกสว่านติดอยู่ในวัสดุอย่าพยายามออกแรงโดยการใช้สว่าน ควรถอดปลั๊ก สว่าน แยกดอกว่านและหัวจับและถอดหัวสว่านออกด้วยมือ วิธีจะช่วยให้งานเจาะที่เกิดการติดขัดเกิดความเสียหายน้อยที่สุด
